วันจันทร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2556

มูลเหตุและแรงบันดาลใจในการก่อสร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติ 80 ปี

มูลเหตุและแรงบันดาลใจในการก่อสร้างศาลาเฉลิมพระเกียรติ  80 ปี

                ภายหลังที่ท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน  ได้เดินทางมาจากวัดเขาสุกิม  ต.เขาบายศรี  อ.ท่าใหม่ .จันทบุรี 

 

  เพื่อที่จะมาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตามที่ได้รับมอบหมายจากพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชายฐิตวิริโย   ประธานสงฆ์วัดเขาสุกิม  ในปี พ..2540    

เนื่องจากวัดป่าธรรมธาราได้ว่างเว้นไม่มีเจ้าอาวาสมาระยะหนึ่ง   ซึ่ง ท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน  ได้มีแนวคิดที่จะฟื้นฟู  ปฏิสังขร  วัดป่าธรรมธารา ให้กลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง  เพราะด้วยความที่สถานที่ดังกล่าว เป็นสถานที่สัปปายะ เหมาะสมแก่การบำเพ็ญสมณะธรรม ทั้งของพระภิกษุ  สามเณร ตลอดจน อุบาสก อุบาสิกา และน่าจะมีความเจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต

 

ประกอบกับในช่วงระยะที่ท่านเจ้าอาวาสองค์แรก

 ได้เข้ามาจำพรรษา อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ 

พระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย  ได้เมตตา

นำพาคณะพระภิกษุ สามเณร ตลอดจน อุบาสก  อุบาสิกา

มาบำเพ็ญสมณะธรรม ในวัดป่าธรรมธารา 

และเมตตาวางศิลาฤกษ์ ในการก่อสร้างศาลาไว้                                พระอาจารย์ทองพูนเมตตาเทหลุมฐานราก

แต่มีเหตุขัดข้องบางประการจึงมิได้มีการดำเนินการก่อสร้างศาลาดังกล่าว  จึงมีการปล่อยพื้นที่ให้ว่างเปล่า

ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรอีก  จนกระทั่งปีพ.. 2541  ท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน  เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ท่านได้ตระหนักถึงเจตนารมณ์ของพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย       สิ่งใดที่หลวงปู่ปรารภและนำทาง สิ่งนั้นย่อมมีความหมายเสมอ ต่อมาท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน   ได้มีโอกาสกราบเรียนปรึกษาถามเรื่องการก่อสร้างศาลาซึ่งหลวงปู่ได้วางศิลาฤกษ์ไว้ที่วัดป่าธรรมธารา เมื่อปีพ.. 2537

 ว่ากระผมจะสร้างศาลาไม่ทราบว่าจะสร้างขนาดเท่าไร่ดีครับกระผม พระเดชพระคุณท่านหลวงปู่

สมชาย  ฐิตวิริโย  ได้ชี้ไปที่ตึก 60 ปี  พร้อมกับกล่าวว่า  ให้สร้างขนาดเท่านี้”   ด้วยความไม่แน่ใจของท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน  เนื่องจากว่าท่านเพิ่งจะมารับตำแหน่งเจ้าอาวาสได้ไม่นาน จึงกราบเรียนถามหลวงปู่ไปว่า กระผมจะสร้างศาลาหลังนี้ให้สำเร็จได้อย่างไร  เนื่องจากกระผมไม่มีญาติพี่น้องสักคน และในวันพระหนึ่ง ๆ  ก็มีโยมมาทำบุญไม่กี่คน และได้รับปัจจัยเพียงวันพระละ  60 บาท บ้าง 80 บาทบ้าง แต่แล้วพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย ก็ยังปรารภเหมือนเดิมพร้อมกับย้ำว่า ให้สร้างศาลาเหมือนตึก 60 ปี ของวัดเขาสุกิมด้านบนเป็นวิหาร   ครูบาไม่ต้องกังวล ต่อไป ญาติโยมครูบาจะมีมาก  มากแล้วดี ๆ ทั้งนั้นด้วยความศรัทธา    เชื่อมั่นในคำปรารภและบารมีธรรมของหลวงปู่ ท่านจึงได้ริเริ่มโครงการก่อสร้างศาลาเฉลิม พระเกียรติ  80 ปี แห่งนี้ในปี พ.. 2541  โดยได้แรง ศรัทธาจากชาวบ้านเขาน้ำอุ่นและละแวกใกล้เคียงจึงได้เริ่มขุดหลุมและวางฐานรากโดยใช้แรงงานคน ขุดฐานศาลา   ซึ่ง ขนาด กว้าง 4 เมตร  ยาว  4เมตร ลึก   1.20 เมตร  ต่อ 1 หลุมจะใช้เวลาประมาณ 7 – 15  วัน   โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย  เนื่องด้วยแรง ขณะกำลังร่วมแรงร่วมใจขุดหลุมศาลา                    ศรัทธาที่มีต่อครูบาอาจารย์ คือ    “ ท่านพระครูธรรมธรวิชัย   อภิฐาโน ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ท่านพระครูธรรมธรวิชัย อภิฐาโน ท่านได้ทำหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างด้วยตัวท่านเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กๆน้อยๆ ท่านให้ความสนใจในรายละเอียดจนบางครั้งบรรดาลูกศิษย์ก็ยังคาดไม่ถึง ในเรื่องความละเอียดรอบคอบ โดยท่านได้กล่าวกับบรรดาลูกศิษย์ว่า

เราทำเพื่อเอาอานิสงส์ และ เอาถึงขั้นพระบารมี”  สิ่งเหล่านี้จะเป็นประจักษ์พยาน ให้แก่เราในวันข้างหน้า โดยท่านได้ยึดมั่นในปฏิปทา ของพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ว่า เราสามารถที่จะทราบความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาได้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็เพราะว่าเราได้เห็นซากปรักหักพัง สิ่งปลูกสร้างและถาวรวัตถุต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ณ สถานที่นั้นๆ มีการประพฤติปฏิบัติและพระพุทธศาสนาเคยประดิษฐาน และ เคยมีความเจริญรุ่งเรืองมาก่อน      ในขณะทำการก่อสร้างท่านจะคอยให้ขวัญกำลังใจ แก่บรรดาลูกศิษย์ ลูกหาอยู่ตลอดไม่ว่าจะดึกดื่น ร้อนหนาวฝนขนาดไหนจนกว่างานจะแล้วเสร็จในแต่ละช่วงที่กำหนดไว้  ในบางครั้งท่านได้ทำให้ลูกศิษย์ลูกหาทราบซึ้งใจโดยการร่วมลงมือทำเองโดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย ทั้งๆที่ท่านได้ทำหน้าที่บริหารจัดการวัด และต้อนรับ คณะศรัทธาที่หลั่งไหลเข้ามาเพื่อชมบารมีและขอพร กันอย่างไม่ขาดสายยิ่งนับวันจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และด้วยความยากลำบากในการก่อสร้างก็มีลูกศิษย์บางคนอดไม่ได้ที่จะรำพึงรำพันว่า ผมจะตายก่อน ที่จะได้เห็นศาลาหลังนี้เสร็จหรือเปล่าครับ  

           ในขณะนั้นท่านมักจะเทศน์ให้คติเตือนใจแก่บรรดาลูกศิษย์อยู่เป็นประจำ  คือ ให้บรรดาลูกศิษย์


อดทน ประการ

1.             อดทนต่อสังขารร่างกายแม้ในยามเจ็บป่วย2.             อดทนต่อความเหน็ดเหนื่อยตรากตรำในการประพฤติปฏิบัติธรรมให้ได้มาซึ่ง      คุณธรรมความดี3.             อดทนต่อเสียงแสลงหูแสลงใจต่างๆย่อมนำไปสู่ความสำเร็จ


และให้มีความเพียร 4 ประการคือ1.             เพียรระวังบาปความชั่วทั้งปวงอย่าให้เกิดขึ้นในสันดาน2.             เพียรระวังบาปความชั่วที่เคยทำมาแล้ว ไม่ให้เกิดขึ้นอีก3.             เพียรตั้งกุศลบุญความดีที่ไม่เคยทำให้มีขึ้นในใจ4.             เพียรรักษาความดีบุญกุศลที่มีแล้วอย่าให้เสื่อมท่านพระครูธรรมธรวิชัย  อภิฐาโน  มักเทศน์สอนอยู่เป็นประจำ เรื่องการฝึกสติ ให้มีสติ ให้ฝึกจิตให้เท่าทันในการเคลื่อนไหวของกาย - วาจา - ใจ จะได้ ละความชั่วทำความดี ทำจิตใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์สุขได้เราเกิดมาแล้วอยู่ที่ไหนต้องทำประโยชน์ในทุกๆที่จึงจะมีความเจริญรุ่งเรืองในการประพฤติปฏิบัติธรรม

บารมีธรรม

           ทั้งนี้และทั้งนั้นเพื่อให้เหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ก้าวสู่จุดมุ่งหมายอันเดียวกัน คือ จะได้เห็น ศาลาเฉลิมพระเกียรติ  80 ปี แห่งนี้แล้วเสร็จโดยสมบูรณ์  เพื่อจะเกิดประโยชน์ต่อสาธุชนรุ่นหลัง และเป็นการสืบทอดเจตนารมณ์ของพระเดชพระคุณท่านหลวงปู่สมชาย  ฐิตวิริโย  และพ่อแม่  ครูบา  อาจารย์  คือ ท่านพระครูธรรมธรวิชัย   อภิฐาโน   พร้อมทั้งเป็นการจรรโลงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาให้คงทนถาวรสืบไป


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น