โครงการจัดสร้างพระประธานยืนใหญ่
พระพุทธชัยมงคลมุนีไพรีพินาศธรรมธารา
เนื่องจากสภาพปัจจุบันความเจริญทางเทคโนโลยีขยายตัวรวดเร็วมาก
จนกลายเป็นเหตุให้บรรดาพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมองข้ามหลักธรรมคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประพฤติปฏิบัติตน
โดยไม่หวั่นเกรงต่อศีลธรรมและประเพณีอันดีงาม ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคม ทั้งทางตรงและทางอ้อม
หากปล่อยให้เวลาผ่านพ้นไปโดยไม่คิดทำอะไรเลย
จะเป็นเหตุให้ศาสนาพุทธถูกบิดเบือนและสูญสลายไปเร็วกว่าเวลาอันสมควร จากแนวความคิดของท่านพระครูธรรมธรวิชัย อภิฐาโน เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมธารา
(เขาน้ำอุ่น) ข้างต้น ท่านจึงดำริที่จะสร้างพระประธานยืนใหญ่องค์หนึ่งประดิษฐานไว้บริเวณหน้าวัดเพื่อเป็นสัญญลักษณ์ว่าบริเวณนี้ “เคยเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนา
ที่มีความเจริญรุ่งเรืองจนสามารถรวบรวมศรัทธาจากญาติโยมสร้างพระประธานยืนใหญ่ได้ขนาดนี้ซึ่งท่านเชื่อว่าหากไม่มีใครมาคิดทำลาย
พระประธานยืนใหญ่องค์นี้จะมีอายุยืนนานหลายร้อยปี” ก่อนที่จะลงมือดำเนินการท่านได้ปรึกษาและขอรับความคิดเห็นจากคณะญาติโยมและศิษย์ซึ่งทุกคนมีความเห็นตรงกัน
ยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
ดังนั้นโครงการจัดสร้างพระประธานยืนใหญ่จึงได้เริ่มขึ้น
โดยเริ่มจากการร่วมมือกันสำรวจหาพื้นที่ที่จะประดิษฐานองค์พระ
ทุกคนมีความเห็นตรงกันว่าควรเป็นบริเวณหน้าศาลาเนื่องจากเป็นลานกว้างและโล่งทำให้เกิดความสง่างามและโดดเด่นเป็นที่สังเกต แต่ต้องปรับพื้นที่โดยถมดินให้สูงจากพื้นเดิม 3
เมตร 30 เซนติเมตร
ซึ่งจะทำให้บริเวณโดยรอบฐานพระสามารถใช้เป็นที่ประกอบพิธีเวียนเทียนเนื่องในโอกาสต่างๆ
ในเวลาปกติก็สามารถใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเดินจงกรม ภาวนา
ทำสมาธิได้
เพื่อให้สอดคล้องกับความคิดที่จะสร้างพระประธานยืนใหญ่เครื่องหมายแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตลอดจนเป็นเครื่องยืนยันว่าสถานที่นี้เป็นดินแดนที่เคยเจริญรุ่งเรืองมาแล้วในอดีตจริง จึงลงมติเห็นสมควรให้สร้างพระยืนใหญ่
ขนาดสูง ๑๒ เมตร น้ำหนักทองเหลืองประมาณ ๒๐
ตัน
ฐานคอนกรีตสูง ๔ เมตร รวมความสูงจากพื้นดินทั้งสิ้น ๒๑
เมตร ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระประธานยืนใหญ่ที่สุดในเขตภาคเหนือ ตั้งงบประมาณในการดำเนินการไว้ในวงเงินจำนวน
๗,๐๐๐,๐๐๐ บาทเศษ
โดยได้พร้อมใจกันถวายชื่อว่า พระพุทธชัยมงคลมุนีไพรีพินาศธรรมธารา
หรือเรียกสั้นๆ ว่า หลวงพ่อธรรมธารา ก็ได้
การจัดสร้างพระประธานยืนใหญ่ได้เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๔๕ ซึ่งตรงกับวันงานทอดผ้าป่าสามัคคีประจำปี โดยกำหนดให้เป็นวันเททองหล่อพระประธานยืนใหญ่ ในช่วงเศียร ซึ่งได้กราบนิมนต์ท่านเจ้าคุณญาณวิลาศ เจ้าอาวาสวัดเขาสุกิม อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี เป็นประธาน ฝ่ายสงฆ์และได้เรียนเชิญท่านปราสาท บุตรดา นายอำเภอปาง ศิลาทอง เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในวันนั้นมีผู้มีจิตศรัทธามา ร่วมงานเป็นจำนวนมาก หลายคนได้ถือโอกาสนี้นำทองรูปพรรณ ลักษณะต่างๆ ร่วมเททองหล่อพระด้วยตนเอง ซึ่งในวันนั้นสามารถรวบรวมปัจจัยบริจาคได้ จำนวน ๑,๐๓๒,๖๙๐ บาท (หนึ่งล้านสามหมื่นสองพันหกร้อยเก้าสิบบาทถ้วน) และ ทองคำ ประมาณ ๕๐ บาทเนื่องจากการเททองหล่อพระในครั้งที่ ๑ ยังมีผู้ที่มีจิตศรัทธาพลาดโอกาสเป็นจำนวนมาก
เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้แก่พุทธศาสนิกชนทางวัดจึงได้กำหนดการเททองหล่อพระ ครั้งที่ ๒ ขึ้นในวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์
๒๕๔๖ โดยเททองในช่วงหน้าอกและได้เรียนเชิญ ท่านปราสาท บุดดา นายอำเภอปางศิลาทองเป็นประธานฝ่านฆราวาสในวันนั้นมีผู้มีจิตศรัทธามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้รับความร่วมมือจากคณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างดียิ่งสามารถรวบรวมปัจจัยบริจาคได้จำนวน ๓๕๐,๓๒๐ บาท(สามแสนห้าหมื่นสามร้อยยี่สิบบาทถ้วน) และทองคำประมาณ ๓๐ บาทจากการที่ท่านพระครูธรรมธรวิชัย อภิฐาโน ติดตามความคืบหน้าในการจัดสร้างพระพุทธชัยมงคลมุนีไพรีพินาศธรรมธารา
ตลอดทำให้ได้พบและรู้จักกับ คุณเอี่ยมหยู
แช่ปึง และ คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง
และ คุณสุนีย์รัตน์
ศรีสุวรรณ
ซึ่งทางครอบครัวและญาติของคุณเอี่ยมหยู
แช่ปึง
คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง และ คุณสุนีย์รัตน์ ศรีสุวรรณ ได้ขอโอกาสที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานยืนใหญ่โดยทางวัดได้กำหนดจัดงานเททองหล่อพระครั้งที่ ๓ ขึ้นใน
คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง และ คุณสุนีย์รัตน์ ศรีสุวรรณ ได้ขอโอกาสที่จะร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประธานยืนใหญ่โดยทางวัดได้กำหนดจัดงานเททองหล่อพระครั้งที่ ๓ ขึ้นใน
วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๔๖ ในช่วงแขนทั้งสองข้าง คุณเอี่ยมหยู แช่ปึง -
คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง
คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง
ด้วย สามารถรวบรวมปัจจัยบริจาคได้
จำนวน ๑,๑๐๘,๙๙๙ บาท(หนึ่งล้านหนึ่งแสนแปดพันเก้า
ร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) และทองคำ ๕๐ บาท
หลังจากที่ทางวัดได้หล่อองค์พระประธานแยกเป็น ส่วนต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ยังขาดอยู่แต่ในช่วง ฐานจึงเป็นเหตุให้คุณเอี่ยมหยู แช่ปึง - คุณเซี่ยมลั้ง แซ่อึ้งและคุณสุนีรัตน์
ศรีสุวรรณ
ขอรับเป็นเจ้า ภาพเททองในช่วงฐาน ซึ่งดำเนินการ ณ โรงหล่อบุญชู จังหวัดนครปฐม ในวันที่
๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๗
ในวันนั้นมีผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และได้รับความร่วมมือจากคณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
สามารถรวบรวมปัจจัยบริจาคได้ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐ บาท(หนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน) และทองคำ ๑๐๐ บาท
ณ วันนี้การดำเนินการหล่อพระพุทธชัยมงคลมุนีไพรีพินาศธรรมธาราเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยทางคณะศิษยานุศิษย์ได้ร่วมกันไปอันเชิญมาจากโรงหล่อบุญชู จังหวัดนครปฐม เมื่อ
วันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๔๗ ออกเดินทางเวลาประมาณ ๐๓.๔๙ น. เดินทางมาถึงวัดป่าธรรมธาราในเวลาประมาณ ๑๐.๔๙ น. เนื่องจากการอันเชิญพระที่มีขนาดใหญ่ขึ้นประดิษฐานในที่สูงมีขั้นตอนการดำเนินการที่ละเอียดอ่อนหลายประการและใช้เวลาค่อนข้างหลายชั่วโมง ทางวัดจึงได้ถือโอกาสอันเชิญขึ้นทันทีที่มาถึง ซึ่งได้เตรียมปรับพื้นที่และตอกเสาเข็ม ขนาดยาว ๔ เมตร จำนวน ๑๖ ต้น สามารถรับน้ำหนักได้ ๕๐๐ ตัน และจะเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในเขตภาคเหนือ
-----------------------------------------------------
เดิมเป็นสระน้ำเล็กๆขนาดความกว้าง ๑๒ เมตร ความยาว ๑๐๐ เมตร ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัด วงเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บาท(สองแสนสี่หมื่นบาทถ้วน)ซึ่งสระดังกล่าวมีขนาดเล็กไม่สามารถอำนวยประโยชน์ให้ทางวัดและประชาชนที่อยู่ใกล้เคียงได้เต็มที่ คณะศิษยานุศิษย์จึงได้ประชุมกันลงมติให้ขุดสระน้ำขนาดใหญ่เพื่อเป็นเขตอภัยทานปล่อยปลาและสัตว์น้ำต่างๆ เพื่อเป็นแหล่งเพาะพันธ์สัตว์น้ำ เพื่อประโยชน์ทางด้านเกษตร เพื่อเป็นรมณียสถานไว้พักผ่อนหย่อนใจ เป็นสถานที่เผยแพร่และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยในวันลอยกระทง เพื่อเป็นลานปฏิบัติธรรมเดินจงกรม นั่งภาวนาสมาธิ จึงได้เสนอโครงการขุดสระน้ำเฉลิมพระเกียรติฉลองการครองราชสมบัติ ๖๐ ปี โดยปรับปรุงขนาดของสระให้กว้าง ๙๙ เมตร ยาว ๙๙ เมตร พื้นที่ประมาณ ๕ ไร่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๙ วงเงินประมาณ ๑,๙๙๙,๙๙๙ บาท(หนึ่งล้านเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน) โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเช่นคุณพ่อเอี่ยมหยู แซ่ปึง คุณแม่เซี่ยมลั้ง แซ่อึ้งรับเป็นเจ้าภาพใหญ่ในการขุดสระครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าประมาณ ๔๙,๙๙๙ บาท(สี่หมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน คุณคัมภีร์ คุณจันทร์ แสนโดด และทิดตู่ บ้านหินชะโงก นำรถแมคโครมาช่วยขุดสระในครั้งนี้คิดเป็นมูลค่าหลายแสนบา ท่านสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ (กำนันตู้) สว.กำแพงเพชร เขต ๒นำรถบด รถเกรดมาปรับและตกแต่งขอบสระและถนนโดยรอบ คิดเป็นมูลค่าหลายแสนบาท รวมทั้งคณะศิษยานุศิษย์ให้ความร่วมมือร่วมใจจนสระน้ำเฉลิมพระเกียรติสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีปัจจุบันนี้สระน้ำได้ใช้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนำไปใช้ในการเกษตรและเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ และเป็นที่ปล่อยปลาแก่พุทธศาสนิกชน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
โครงการจัดสร้างพระพุทธโคดม ปางอุ้มบาตร
เฉลิมพระเกียรติฉลองครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
ในโอกาสที่คุณแม่เซี่ยมลั้ง แซ่อึ้ง มีความประสงค์จะสร้างพระพุทธรูปประจำวันเกิดจึงได้ขอสร้างพระพุทธรูปยืน ประจำวันพุธ เพื่อเป็นพระประธานกลางสระน้ำเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ เพื่อเป็นการสืบทอดเจตนารมย์ของศาสนา และอุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร ได้ถวายพระนามว่า “พระพุทธโคดม”
โดยเริ่มดำเนินการเททองหล่อองค์พระพุทธโคดม ตั้งแต่วันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๔๙ ที่โรงหล่อบุญชู จังหวัดนครปฐม คิดเป็นมูลค่าประมาณ ๕๕๐,๐๐๐ บาท(ห้าแสนห้าหมื่นบาทถ้วน)
ในวันมหามิ่งมงคล วันพระแรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๙ เป็นวันที่พระเถรานุเถระจากวัดต่างๆทั้งในจังหวัดกำแพงเพชร และจังหวัดใกล้เคียงประมาณ ๙๙ รูป ได้กระทำพิธีสวดสมโภชน์ และได้ทำพิธีการ เบิกเนตรองค์พระพุทธโคดม โดย ท่านพระครูปัญญาสัตติคุณ เจ้าคณะอำเภอคลองลาน , คลองขลุง , ปางศิลาทอง
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น